videoeditorprogram-stars

ประสบการณ์กว่า 15 ปีในวงการตัดต่อวิดีโอ

โคเดก (Codec) คืออะไร?

Kristian Ole Rørbye

โดย Kristian Ole Rørbye

อัตรา

โคเดก (Codec) ย่อมาจากคำว่า “Coder-Decoder” หรือ “Compressor-Decompressor” ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการบีบอัดและแยกข้อมูลเสียงและวิดีโอ เพื่อให้สามารถเก็บและส่งผ่านข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในภาษาไทย โคเดกเรียกว่า “ตัวเข้ารหัสและถอดรหัส” หรือ “ตัวบีบอัดและขยายข้อมูล” โคเดกมีบทบาทสำคัญในโลกของการบันทึกและการส่งผ่านข้อมูลดิจิทัล เช่น การสตรีมมิ่งวิดีโอ การโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP) และการดูหนังออนไลน์

การทำงานของโคเดก

โคเดกทำหน้าที่หลักสองอย่าง คือ การบีบอัดข้อมูล และ การถอดรหัสข้อมูล การบีบอัดข้อมูลหมายถึงการลดขนาดของไฟล์เพื่อให้สามารถจัดเก็บหรือส่งผ่านได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่สูญเสียคุณภาพของข้อมูลมากนัก การถอดรหัสข้อมูลคือการแปลงข้อมูลที่บีบอัดแล้วกลับมาเป็นข้อมูลในรูปแบบที่สามารถใช้งานได้ โคเดกมีสองประเภทหลัก ๆ ได้แก่ โคเดกสำหรับเสียง (Audio Codec) และโคเดกสำหรับวิดีโอ (Video Codec)

ประเภทของโคเดก

  1. โคเดกสำหรับเสียง (Audio Codec): โคเดกประเภทนี้ใช้สำหรับการบีบอัดและถอดรหัสข้อมูลเสียง เช่น ไฟล์เพลงหรือเสียงประกอบในวิดีโอ ตัวอย่างของโคเดกเสียงที่เป็นที่นิยม ได้แก่
    • MP3 (MPEG Audio Layer III): เป็นโคเดกที่บีบอัดข้อมูลเสียงให้มีขนาดเล็กลงโดยที่คุณภาพเสียงยังคงอยู่ในระดับที่รับฟังได้ดี
    • AAC (Advanced Audio Codec): เป็นโคเดกที่ใช้ในอุปกรณ์มือถือและบริการสตรีมมิ่งเช่น YouTube และ Apple Music มีการบีบอัดที่ดีกว่า MP3 แต่ยังคงคุณภาพเสียงที่ดี
    • FLAC (Free Lossless Audio Codec): เป็นโคเดกที่บีบอัดข้อมูลโดยไม่สูญเสียคุณภาพเสียง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงที่สูงสุด
  2. โคเดกสำหรับวิดีโอ (Video Codec): โคเดกประเภทนี้ใช้สำหรับการบีบอัดและถอดรหัสข้อมูลวิดีโอ เช่น วิดีโอที่บันทึกจากกล้องหรือวิดีโอที่สตรีมออนไลน์ ตัวอย่างของโคเดกวิดีโอที่เป็นที่นิยม ได้แก่
    • H.264 (Advanced Video Coding): เป็นโคเดกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการบีบอัดวิดีโอในหลายแอปพลิเคชัน เช่น การสตรีมมิ่งวิดีโอออนไลน์และ Blu-ray
    • H.265 (HEVC – High Efficiency Video Coding): เป็นเวอร์ชันที่พัฒนาขึ้นจาก H.264 เพื่อให้มีการบีบอัดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและใช้แบนด์วิดธ์น้อยลง แต่ยังคงคุณภาพวิดีโอที่ดี
    • VP9: เป็นโคเดกที่พัฒนาโดย Google สำหรับการใช้งานบน YouTube และเว็บเบราว์เซอร์ที่รองรับ มีการบีบอัดที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ H.265

วิธีการเลือกโคเดก

การเลือกโคเดกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพของไฟล์ที่ต้องการ การบีบอัดที่ต้องการ ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ และความสามารถในการรองรับของอุปกรณ์หรือแพลตฟอร์มที่คุณใช้

  • คุณภาพและการบีบอัด: หากคุณต้องการคุณภาพที่สูงสุดและไม่สนใจเรื่องขนาดของไฟล์ คุณอาจเลือกใช้โคเดกที่มีการบีบอัดแบบไม่สูญเสีย เช่น FLAC สำหรับเสียง หรือเลือกใช้ H.265 สำหรับวิดีโอที่ต้องการคุณภาพสูงแต่มีขนาดไฟล์เล็กลง
  • ความสามารถในการเล่นและความเข้ากันได้: โคเดกบางตัวอาจไม่สามารถเล่นได้บนอุปกรณ์ทุกชนิด ดังนั้นคุณควรเลือกโคเดกที่มีการสนับสนุนอย่างกว้างขวาง เช่น MP3 หรือ H.264 ซึ่งสามารถเล่นได้บนอุปกรณ์ส่วนใหญ่
  • ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์: โคเดกบางตัวต้องการพลังงานในการประมวลผลมากกว่าโคเดกอื่น ๆ ดังนั้นการเลือกโคเดกควรคำนึงถึงความสามารถของฮาร์ดแวร์ที่คุณใช้ด้วย

โคเดกในชีวิตประจำวัน

โคเดกมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราโดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่มีการใช้สื่อหลายประเภทอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงผ่านบริการสตรีมมิ่ง การดูวิดีโอออนไลน์ หรือการโทรผ่านอินเทอร์เน็ต โคเดกที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้เราสามารถรับชมและรับฟังเนื้อหาดิจิทัลได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องรอโหลดหรือเผชิญกับการหยุดชะงัก

การพัฒนาและอนาคตของโคเดก

เทคโนโลยีโคเดกยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ใช้ในด้านคุณภาพของเสียงและวิดีโอที่สูงขึ้น รวมถึงการลดขนาดไฟล์และแบนด์วิดธ์ที่ใช้ โคเดกใหม่ๆ เช่น AV1 ซึ่งเป็นโครงการเปิดแหล่งที่มาของหลายบริษัทใหญ่ กำลังพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีการบีบอัดที่ดีกว่าเดิมและลดการใช้ทรัพยากร

การเข้าใจโคเดกและการใช้งานของมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ทำงานในด้านสื่อดิจิทัลและการสื่อสาร รวมถึงผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการคุณภาพของเสียงและวิดีโอที่ดีที่สุดจากอุปกรณ์และบริการที่พวกเขาใช้ในชีวิตประจำวัน