Timelapse (ไทม์แลปส์) เป็นเทคนิคการถ่ายทำและตัดต่อวิดีโอที่ช่วยเร่งความเร็วของการบันทึกภาพให้เกิดความต่อเนื่องและกระชับมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ชมสามารถรับชมเหตุการณ์ที่กินเวลานานในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน เช่น การเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้าจากกลางวันเป็นกลางคืน การเติบโตของต้นไม้ หรือการเคลื่อนไหวของผู้คนในเมืองใหญ่
การทำงานของ Timelapse (ไทม์แลปส์)
เทคนิคนี้เกิดจากการบันทึกภาพนิ่งจำนวนมากในช่วงเวลาที่ห่างกัน (Interval Shooting) แล้วนำมารวมกันเพื่อสร้างวิดีโอที่ให้ความรู้สึกถึงความเร่งรีบ เช่น หากบันทึกภาพในทุกๆ 10 วินาที แล้วนำภาพเหล่านั้นมารวมกันในวิดีโอที่แสดงผลที่ 24 เฟรมต่อวินาที เราจะสามารถย่นเวลา 10 นาทีให้กลายเป็นวิดีโอเพียงไม่กี่วินาทีได้
การถ่ายทำไทม์แลปส์จะต้องใช้อุปกรณ์ที่สามารถตั้งค่าการถ่ายภาพอัตโนมัติหรือควบคุมระยะเวลาของการถ่ายได้ เช่น กล้อง DSLR, กล้อง Mirrorless หรือแม้กระทั่งสมาร์ทโฟนบางรุ่น
องค์ประกอบสำคัญในการสร้าง Timelapse (ไทม์แลปส์)
- Interval (ช่วงเวลา)
การกำหนดช่วงเวลาระหว่างการถ่ายภาพแต่ละเฟรมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะส่งผลต่อความลื่นไหลของวิดีโอ ถ้าช่วงเวลาสั้นเกินไป เช่น 1-2 วินาที อาจทำให้การเคลื่อนไหวดูเนียนและช้าเกินไป ในขณะที่ช่วงเวลายาว เช่น 10-30 วินาที จะเหมาะกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงช้ากว่า เช่น การเคลื่อนที่ของเมฆหรือการเติบโตของต้นไม้ - จำนวนภาพ (จำนวนเฟรมทั้งหมด)
การคำนวณจำนวนภาพที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับความยาวของวิดีโอสุดท้าย ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการวิดีโอที่มีความยาว 10 วินาที และต้องการแสดงผลที่ 24 เฟรมต่อวินาที คุณจะต้องถ่ายภาพทั้งหมด 240 ภาพ - การตั้งค่ากล้อง
- โหมดถ่ายภาพแบบแมนนวล (Manual Mode): เพื่อควบคุมความสม่ำเสมอของแสง สี และโฟกัส
- ค่า ISO ต่ำ: เพื่อลด Noise ในภาพ
- รูรับแสงคงที่: เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงของความลึกของภาพ (Depth of Field)
- ความเร็วชัตเตอร์ที่เหมาะสม: เพื่อสร้างความสมูทของการเคลื่อนไหว เช่น ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ Motion Blur
- ขาตั้งกล้อง (Tripod)
การใช้ขาตั้งกล้องช่วยลดการสั่นของภาพและทำให้การถ่ายทำมีความเสถียร
ประเภทของ Timelapse (ไทม์แลปส์)
- Natural Timelapse (ไทม์แลปส์ธรรมชาติ)
ใช้บันทึกภาพเหตุการณ์ในธรรมชาติ เช่น การเคลื่อนตัวของเมฆ การเคลื่อนที่ของดวงดาว หรือการเติบโตของพืช - Urban Timelapse (ไทม์แลปส์ในเมือง)
เน้นการบันทึกภาพในเมือง เช่น การเคลื่อนที่ของยานพาหนะ การเดินของผู้คน หรือไฟจากอาคารในตอนกลางคืน - Hyperlapse (ไฮเปอร์แลปส์)
คล้ายกับไทม์แลปส์ทั่วไป แต่จะมีการเคลื่อนที่ของกล้องไปยังตำแหน่งต่างๆ ทำให้วิดีโอดูมีมิติมากขึ้น
อุปกรณ์ที่นิยมใช้ในการถ่าย Timelapse (ไทม์แลปส์)
- กล้องถ่ายภาพ
กล้อง DSLR และ Mirrorless เป็นที่นิยมเพราะสามารถตั้งค่าการถ่ายภาพได้หลากหลาย - อุปกรณ์ควบคุมระยะเวลา (Intervalometer)
ช่วยตั้งค่าระยะเวลาและจำนวนภาพที่ต้องการถ่าย - ขาตั้งกล้อง (Tripod)
ลดการสั่นของภาพและเพิ่มความเสถียร - แบตเตอรี่สำรอง
เนื่องจากการถ่ายทำอาจใช้เวลานาน จึงจำเป็นต้องมีพลังงานสำรอง
การตัดต่อ Timelapse (ไทม์แลปส์)
หลังจากการถ่ายทำแล้ว ภาพทั้งหมดจะต้องนำไปตัดต่อเพื่อสร้างวิดีโอ โปรแกรมยอดนิยมสำหรับการตัดต่อ เช่น Adobe Premiere Pro, Final Cut Pro หรือแม้กระทั่งแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เช่น LumaFusion
การตัดต่อมักจะรวมถึงการปรับแสง สี และการใส่เสียงประกอบเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
ประโยชน์ของ Timelapse (ไทม์แลปส์)
- ใช้บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช้า เช่น การสร้างอาคาร
- ใช้ในงานศิลปะและภาพยนตร์ เพื่อเพิ่มความดึงดูด
- เป็นเครื่องมือการศึกษา เช่น การสอนเกี่ยวกับกระบวนการทางธรรมชาติ
ด้วยเทคนิคไทม์แลปส์ เราสามารถเปลี่ยนสิ่งที่ดูเหมือนจะกินเวลานานให้กลายเป็นภาพที่ทรงพลังและดึงดูดใจในระยะเวลาอันสั้น