TRT หรือ Total Running Time หมายถึงระยะเวลารวมของวิดีโอหรือโปรเจกต์ภาพยนตร์ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่รวมฟุตเทจที่ถูกตัดออกไปในขั้นตอนการตัดต่อ TRT เป็นหนึ่งในคำศัพท์ที่สำคัญในงานด้านการตัดต่อวิดีโอและการผลิตสื่อภาพยนตร์ เพราะช่วยกำหนดความยาวของคอนเทนต์และมีผลต่อการวางแผนงานด้านอื่นๆ เช่น การกระจายเวลาในการฉาย การออกอากาศ หรือการโพสต์ลงแพลตฟอร์มออนไลน์
ในภาษาไทย TRT เรียกว่า “ระยะเวลารวมของเนื้อหา” ซึ่งสามารถอ้างอิงได้ทั้งในสื่อวิดีโอ สารคดี ภาพยนตร์ หรือแม้แต่คอนเทนต์สั้นๆ อย่างวิดีโอโซเชียลมีเดีย
ความสำคัญของ TRT ในกระบวนการผลิตวิดีโอ
TRT มีความสำคัญในกระบวนการผลิตวิดีโอและสื่อภาพยนตร์ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการวางแผนในหลายขั้นตอน เช่น
- การกำหนดกรอบเวลา
TRT ช่วยกำหนดความยาวของโปรเจกต์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และทีมงานอื่นๆ ที่ต้องการให้คอนเทนต์เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น หากเป็นโฆษณาออนไลน์ TRT มักจะต้องจำกัดไว้ที่ 15-30 วินาที เพื่อความกระชับและดึงดูดความสนใจ - การจัดลำดับเนื้อหา
TRT ช่วยในการจัดวางฉากหรือเนื้อหาให้สมดุล โดยทีมงานจะรู้ว่าต้องแบ่งสัดส่วนเวลาสำหรับฉากเปิดเรื่อง จุดพีค และฉากจบอย่างไรเพื่อให้เหมาะสมกับระยะเวลารวมที่กำหนดไว้ - การวางแผนการออกอากาศหรือการจัดการเวลา
สำหรับรายการโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ TRT จะต้องสอดคล้องกับเวลาที่กำหนด เช่น หากรายการมีช่องเวลา 60 นาที TRT ของคอนเทนต์หลักอาจต้องอยู่ที่ประมาณ 42-48 นาที ที่เหลือเผื่อสำหรับโฆษณาหรือการแทรกเนื้อหาอื่นๆ
วิธีการคำนวณ TRT
การคำนวณ TRT ทำได้ง่ายโดยการรวมระยะเวลาของฟุตเทจทั้งหมดที่ผ่านการตัดต่อเรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่รวมช่วงที่ถูกตัดออก (Outtakes) หรือช่วงที่ไม่ได้ใช้
ตัวอย่าง:
หากฟุตเทจของโปรเจกต์มีความยาว 5 นาที 30 วินาทีในฉากแรก, 10 นาทีในฉากที่สอง, และ 4 นาทีในฉากสุดท้าย TRT ของโปรเจกต์นี้จะเท่ากับ 19 นาที 30 วินาที
ความแตกต่างระหว่าง TRT และ Runtime
ในบางกรณี TRT อาจถูกใช้แทนคำว่า Runtime แต่ทั้งสองคำนี้มีความแตกต่างเล็กน้อย:
- Runtime หมายถึงระยะเวลาที่คอนเทนต์ใช้ในการฉายหรือแสดงผล ซึ่งอาจรวมถึงช่วงเครดิตท้ายเรื่อง (End Credits) หรือส่วนอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามา
- TRT เน้นเฉพาะเนื้อหาหลักของคอนเทนต์โดยไม่รวมส่วนที่ไม่จำเป็น เช่น เครดิตท้ายเรื่องหรือช่วงที่มีการหยุดพัก
TRT ในบริบทของแพลตฟอร์มออนไลน์
ในยุคดิจิทัล TRT กลายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับครีเอเตอร์ที่สร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น YouTube, Facebook หรือ TikTok แต่ละแพลตฟอร์มมีข้อกำหนดและพฤติกรรมการรับชมที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลให้ TRT ต้องถูกปรับให้เหมาะสม
- YouTube
วิดีโอที่มี TRT ยาวกว่า 10 นาทีมักได้รับการโปรโมตมากกว่าเนื่องจาก YouTube ให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและสามารถเพิ่มโฆษณาได้หลายช่วง - Facebook
คอนเทนต์ที่มี TRT สั้นและดึงดูดความสนใจใน 3 วินาทีแรกจะมีโอกาสสูงในการถูกแชร์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย - TikTok
บน TikTok ความยาวของ TRT ส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 15-60 วินาทีเพื่อให้เหมาะสมกับการรับชมในฟีดที่รวดเร็ว