videoeditorprogram-stars

ประสบการณ์กว่า 15 ปีในวงการตัดต่อวิดีโอ

อะไรคือ Crop Factor (ครอปแฟกเตอร์)

Kristian Ole Rørbye

โดย Kristian Ole Rørbye

อัตรา

ในโลกของการถ่ายภาพและวิดีโอ คำว่า “Crop Factor” หรือที่เรียกเป็นภาษาไทยว่า “ครอปแฟกเตอร์” เป็นคำที่มักจะถูกพูดถึงบ่อย โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาดเล็กกว่ากล้องฟูลเฟรม (Full Frame) Crop Factor เป็นปัจจัยที่ช่วยกำหนดว่าเลนส์ที่ใช้กับกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาดเล็กจะแสดงผลภาพอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับเลนส์ที่ใช้ในกล้องฟูลเฟรม ซึ่ง Crop Factor มีความสำคัญอย่างมากในการถ่ายภาพและวิดีโอ เพราะจะมีผลต่อมุมมอง (Field of View) และลักษณะของภาพที่ถูกบันทึกไว้

ความหมายของ Crop Factor (ครอปแฟกเตอร์)

Crop Factor คืออัตราส่วนระหว่างขนาดของเซนเซอร์กล้องที่เล็กกว่าเมื่อเทียบกับขนาดของเซนเซอร์ฟูลเฟรม หากเรานำกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาดเล็กมาใช้ เลนส์ที่มีความยาวโฟกัสเท่ากันก็จะให้มุมมองภาพที่แตกต่างไปจากเลนส์ที่ใช้กับกล้องฟูลเฟรม กล้องฟูลเฟรมมีเซนเซอร์ขนาด 36 x 24 มม. ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับฟิล์ม 35 มม. แบบดั้งเดิม ส่วนกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาดเล็กกว่า เช่น กล้อง APS-C หรือ Micro Four Thirds จะมี Crop Factor ที่กำหนดมุมมองภาพที่แคบลง

วิธีคำนวณ Crop Factor

การคำนวณ Crop Factor เป็นเรื่องง่าย โดยจะใช้สูตร:CropFactor=ขนาดของเซนเซอร์ฟูลเฟรมขนาดของเซนเซอร์กล้องที่ใช้งานCrop Factor = \frac{ขนาดของเซนเซอร์ฟูลเฟรม}{ขนาดของเซนเซอร์กล้องที่ใช้งาน}CropFactor=ขนาดของเซนเซอร์กล้องที่ใช้งานขนาดของเซนเซอร์ฟูลเฟรม​

ตัวอย่างเช่น กล้องที่มีเซนเซอร์ขนาด APS-C ซึ่งมี Crop Factor ประมาณ 1.5 เท่า หมายความว่าเมื่อใช้เลนส์ 50 มม. บนกล้อง APS-C เลนส์จะให้มุมมองที่คล้ายคลึงกับการใช้เลนส์ 75 มม. บนกล้องฟูลเฟรม (50 มม. x 1.5 = 75 มม.)

ในขณะเดียวกัน กล้องที่ใช้เซนเซอร์ Micro Four Thirds จะมี Crop Factor ประมาณ 2.0 เท่า ดังนั้นเลนส์ 50 มม. บนกล้อง Micro Four Thirds จะให้มุมมองภาพเทียบเท่ากับเลนส์ 100 มม. บนกล้องฟูลเฟรม

ผลกระทบของ Crop Factor ต่อมุมมองภาพ

Crop Factor มีผลโดยตรงต่อมุมมองของภาพ (Field of View) ซึ่งเป็นการบอกถึงขอบเขตของภาพที่สามารถบันทึกได้ ยิ่ง Crop Factor มีค่ามากขึ้น มุมมองของภาพจะยิ่งแคบลง ตัวอย่างเช่น เลนส์ 24 มม. บนกล้องฟูลเฟรมจะให้ภาพมุมกว้าง แต่ถ้าใช้เลนส์ 24 มม. เดียวกันบนกล้อง APS-C ที่มี Crop Factor 1.5 จะทำให้มุมมองภาพแคบลงไปเทียบเท่ากับเลนส์ 36 มม. บนกล้องฟูลเฟรม ซึ่งผลนี้ทำให้การคำนวณ Crop Factor มีความสำคัญอย่างมากเมื่อต้องการถ่ายภาพหรือวิดีโอที่มีการกำหนดมุมมองที่เฉพาะเจาะจง

Crop Factor และการถ่ายภาพ

ในการถ่ายภาพ ครอปแฟกเตอร์มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับช่างภาพที่ต้องการคำนวณว่าภาพที่ได้จะมีมุมมองกว้างหรือแคบขนาดไหนจากการใช้เลนส์บนกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาดต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ช่างภาพที่ต้องการถ่ายภาพกีฬาอาจจะเลือกใช้กล้องที่มีเซนเซอร์ขนาดเล็กกว่าเพื่อให้ได้มุมมองที่แคบลง และทำให้วัตถุที่อยู่ไกลดูใกล้มากขึ้นโดยไม่ต้องใช้เลนส์ที่มีความยาวโฟกัสสูง ในทางกลับกัน การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์หรือภาพที่ต้องการมุมกว้าง กล้องฟูลเฟรมที่ไม่มีครอปแฟกเตอร์จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

Crop Factor และการถ่ายวิดีโอ

การถ่ายวิดีโอก็เช่นกัน ครอปแฟกเตอร์มีผลต่อภาพที่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการถ่ายวิดีโอที่ต้องการการควบคุมมุมมองและองค์ประกอบของฉาก เช่น การถ่ายทำภาพยนตร์ หากผู้ถ่ายต้องการให้วัตถุหรือฉากที่อยู่ไกลถูกดึงเข้ามาในภาพโดยไม่ต้องใช้เลนส์ซูมที่มีราคาแพง กล้องที่มีครอปแฟกเตอร์สูงจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ การถ่ายวิดีโอในที่แคบหรือสถานการณ์ที่ต้องการมุมกว้าง การใช้กล้องฟูลเฟรมหรือการใช้เลนส์ไวด์บนกล้องที่มี Crop Factor ต่ำก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

ข้อดีและข้อเสียของ Crop Factor

ข้อดี:

  1. เพิ่มทางยาวโฟกัสโดยไม่ต้องใช้เลนส์ซูม: สำหรับช่างภาพที่ต้องการถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ไกล เช่น การถ่ายภาพกีฬา การถ่ายภาพสัตว์ป่า หรือการถ่ายภาพบุคคล กล้องที่มีครอปแฟกเตอร์จะช่วยให้ได้ภาพที่ใกล้ขึ้นโดยไม่ต้องใช้เลนส์ที่มีความยาวโฟกัสสูง
  2. ราคาถูกกว่า: กล้องที่มีเซนเซอร์ขนาดเล็กกว่าฟูลเฟรมมักจะมีราคาถูกกว่า จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นหรือช่างภาพมือสมัครเล่น

ข้อเสีย:

  1. มุมมองภาพแคบลง: การที่มุมมองภาพถูกครอปทำให้ไม่สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้เหมือนกล้องฟูลเฟรม แม้จะใช้เลนส์ไวด์ก็ตาม ซึ่งจะเป็นข้อเสียสำหรับการถ่ายภาพวิวหรือภาพสถานที่
  2. ผลกระทบต่อคุณภาพของภาพ: ในบางกรณี เซนเซอร์ที่มีขนาดเล็กอาจให้คุณภาพของภาพที่น้อยกว่า โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่แสงน้อย เซนเซอร์ฟูลเฟรมมักจะมีประสิทธิภาพในการบันทึกแสงได้ดีกว่า