ในกระบวนการตัดต่อวิดีโอ คำว่า Keying หรือที่เรียกในภาษาไทยว่า การทำคีย์ หมายถึงเทคนิคในการเลือกและแยกบางส่วนของภาพหรือวิดีโอออกจากส่วนอื่น ๆ โดยอาศัยความแตกต่างของสี ความสว่าง หรือคุณสมบัติอื่น ๆ ของภาพ การทำคีย์เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานภาพยนตร์ การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ และงานวิดีโออื่น ๆ เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนพื้นหลังหรือการผสานองค์ประกอบของภาพจากแหล่งต่าง ๆ
ประเภทของ Keying
ในงานตัดต่อวิดีโอ การทำคีย์สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามวิธีการและเทคนิคที่ใช้ ซึ่งประเภทที่พบได้บ่อยที่สุดคือ:
1. Chromakey (โครมา คีย์)
Chromakey หรือในภาษาไทยอาจเรียกว่า คีย์สี เป็นเทคนิคที่ใช้มากที่สุด โดยหลักการทำงานของโครมาคีย์คือการเลือกสีใดสีหนึ่งในภาพ เช่น สีเขียว (Green Screen) หรือสีน้ำเงิน (Blue Screen) เพื่อแยกภาพเบื้องหน้าออกจากพื้นหลัง เทคนิคนี้มักใช้ในงานถ่ายทำภาพยนตร์และโทรทัศน์ เช่น ข่าว หรือการถ่ายทำฉากที่ต้องการใส่เอฟเฟกต์คอมพิวเตอร์กราฟิก (CG) ในภายหลัง
ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการถ่ายทำรายการโทรทัศน์บนฉากที่มีพื้นหลังสีเขียว (Green Screen) ภาพที่เห็นในจอจะเป็นเพียงตัวนักแสดงหรือวัตถุที่อยู่เบื้องหน้า ส่วนสีเขียวจะถูกโปรแกรมตัดออกและแทนที่ด้วยพื้นหลังใหม่ ซึ่งอาจเป็นฉากเสมือนจริงหรือภาพวิดีโอที่ถ่ายทำในสถานที่จริง
2. Luma Key (ลูม่า คีย์)
Luma Key เป็นอีกเทคนิคหนึ่งของการทำคีย์ ซึ่งใช้ความสว่าง (luminance) ของภาพเพื่อแยกส่วนต่าง ๆ ของภาพออกจากกัน โดยทั่วไปแล้ว Luma Key จะใช้ในการแยกวัตถุที่มีความสว่างแตกต่างจากพื้นหลัง เทคนิคนี้มักใช้ในกรณีที่พื้นหลังไม่เป็นสีที่มีความเฉพาะเจาะจงเหมือนกับในกรณีของ Chromakey
ตัวอย่างการใช้ Luma Key เช่น การแยกภาพดวงจันทร์ที่สว่างออกจากท้องฟ้ากลางคืนที่มืด เพื่อที่จะสามารถนำภาพของดวงจันทร์ไปผสมกับภาพฉากอื่นได้ง่ายขึ้น
3. Difference Key (ดิฟเฟอเรนซ์ คีย์)
Difference Key เป็นเทคนิคที่ใช้ในการเปรียบเทียบระหว่างเฟรมภาพสองเฟรมที่มีความแตกต่างกัน โดยโปรแกรมตัดต่อจะทำการวิเคราะห์และแยกส่วนที่แตกต่างกันของภาพออกมา ส่วนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะถูกทำให้โปร่งใสเพื่อให้สามารถนำภาพอื่น ๆ เข้ามาแทนที่ได้
ตัวอย่างของ Difference Key คือ การถ่ายทำภาพยนตร์ที่ต้องการแยกนักแสดงออกจากพื้นหลังที่ซับซ้อน โดยใช้การถ่ายภาพที่ไม่มีนักแสดงอยู่ในเฟรมหนึ่ง และถ่ายอีกเฟรมหนึ่งที่มีนักแสดงอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน
การทำงานของ Keying
การทำคีย์มักจะอาศัยซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอในการประมวลผล ซอฟต์แวร์จะมีฟังก์ชันที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกสีหรือคุณสมบัติของภาพที่ต้องการทำคีย์ออกมาได้ เมื่อโปรแกรมตรวจจับสีหรือความสว่างที่ต้องการแล้ว จะทำการตัดส่วนนั้น ๆ ออกและแทนที่ด้วยภาพอื่น
ซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้ในการทำคีย์ เช่น:
- Adobe After Effects: เป็นโปรแกรมยอดนิยมในการตัดต่อวิดีโอที่มีความซับซ้อนและใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะการทำโครมาคีย์ที่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Final Cut Pro: เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพที่มักใช้ในงานภาพยนตร์และโทรทัศน์
- DaVinci Resolve: โปรแกรมที่มีความสามารถในการทำคีย์ได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะในงานที่เกี่ยวข้องกับการปรับแต่งสีและการจัดการกับภาพที่มีความละเอียดสูง
ข้อดีและข้อจำกัดของ Keying
การทำคีย์มีข้อดีหลายประการ ทำให้สามารถสร้างเอฟเฟกต์ที่หลากหลายและเสมือนจริงในงานวิดีโอได้ แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน
ข้อดี:
- ช่วยให้การเปลี่ยนแปลงพื้นหลังหรือผสานวัตถุในภาพทำได้ง่าย
- ทำให้งานวิดีโอมีความยืดหยุ่นและสร้างสรรค์มากขึ้น
- ประหยัดเวลาและทรัพยากรในการถ่ายทำ เพราะสามารถสร้างฉากหลังเสมือนจริงได้โดยไม่ต้องไปถ่ายทำในสถานที่จริง
ข้อจำกัด:
- การทำคีย์สีเขียวหรือสีน้ำเงินต้องใช้ฉากที่มีการจัดแสงอย่างเหมาะสม เพราะหากแสงตกกระทบไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้การทำคีย์ไม่ราบรื่น
- สีของวัตถุหรือเสื้อผ้าที่นักแสดงสวมใส่ต้องไม่คล้ายคลึงกับสีที่ใช้เป็นพื้นหลัง มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาในการแยกวัตถุออกจากฉาก
การนำ Keying ไปใช้ในอุตสาหกรรม
เทคนิคการทำคีย์ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดังนี้:
- อุตสาหกรรมภาพยนตร์: การทำคีย์เป็นส่วนสำคัญในการสร้างเอฟเฟกต์พิเศษ โดยเฉพาะในภาพยนตร์แนวไซไฟหรือแฟนตาซีที่ต้องการสร้างฉากที่เหนือจริง
- รายการโทรทัศน์: รายการข่าวและรายการบันเทิงต่าง ๆ มักใช้การทำคีย์เพื่อเปลี่ยนฉากหลังหรือแทรกกราฟิกเข้ามาในรายการสด
- การโฆษณา: การทำคีย์ใช้ในการสร้างสื่อโฆษณาที่ต้องการเน้นสินค้า หรือแยกสินค้าออกจากพื้นหลังที่ซับซ้อน