videoeditorprogram-stars

ประสบการณ์กว่า 15 ปีในวงการตัดต่อวิดีโอ

ลูมา (Luma) คืออะไร?

Kristian Ole Rørbye

โดย Kristian Ole Rørbye

อัตรา

ลูมา (Luma) หรือที่เรียกว่า ความสว่างของภาพ ในการตัดต่อวิดีโอและการประมวลผลภาพ หมายถึงองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับระดับของความสว่างในภาพหรือเฟรมของวิดีโอโดยไม่พิจารณาถึงสี (Hue) หรือความอิ่มตัวของสี (Saturation) ความเข้าใจเกี่ยวกับลูมามีความสำคัญในการตัดต่อวิดีโอเพื่อควบคุมและปรับความสว่างให้เหมาะสมกับบรรยากาศและอารมณ์ของภาพ

ในภาษาไทย คำว่า “ลูมา” ใช้ทับศัพท์แบบตรงตัว เนื่องจากเป็นคำเฉพาะทางเทคนิคที่นักตัดต่อและผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการประมวลผลภาพรู้จักกันดี

แนวคิดพื้นฐานของลูมา

ลูมาเป็นส่วนที่ใช้ในการวัดระดับความสว่างในภาพวิดีโอ โดยในระบบสีแบบดิจิทัล เช่น YUV หรือ YCbCr ลูมา (Y) คือส่วนที่ทำให้เราเห็นความแตกต่างระหว่างพื้นที่ที่สว่างและพื้นที่ที่มืด ส่วน Chroma (Cb และ Cr) เป็นส่วนที่ใช้บอกข้อมูลสี

การแยกความสว่าง (Luma) ออกจากสี (Chroma) ช่วยให้การจัดการกับภาพและวิดีโอทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การปรับค่าสีโดยไม่กระทบกับความสว่าง หรือการปรับความสว่างโดยไม่เปลี่ยนแปลงสีในภาพ ซึ่งในทางเทคนิคการแยกข้อมูลลูมานี้มักใช้ในการปรับคอนทราสต์ ความสว่าง หรือแม้กระทั่งการจัดทำฟิลเตอร์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการแต่งภาพ

ลูมากับการตัดต่อวิดีโอ

ในการตัดต่อวิดีโอ การทำงานกับลูมาเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากเป็นการควบคุมระดับความสว่างของภาพ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณต้องการเพิ่มหรือลดความสว่างของเฟรม ลูมาคือปัจจัยที่ต้องพิจารณา การปรับค่าเหล่านี้ช่วยให้สามารถปรับปรุงคุณภาพของภาพในลักษณะที่สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้ชมต้องการรับชม

ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการสร้างความรู้สึกอบอุ่นและมีอารมณ์ที่นุ่มนวล อาจจะใช้การเพิ่มลูมาเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความสว่างให้ภาพดูชัดเจนขึ้น ในทางตรงกันข้าม การลดลูมาลงจะทำให้ภาพดูมีอารมณ์เงียบเหงาและขรึมมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับการสื่อสารความรู้สึกที่เศร้าหรือจริงจัง

ลูมาและการแสดงผลบนจอ

การแสดงผลของลูมานั้นยังมีความสำคัญเมื่อพูดถึงการแสดงผลบนจอภาพประเภทต่างๆ หน้าจอแต่ละประเภทมีการแสดงผลลูมาที่แตกต่างกันออกไป เช่น หน้าจอ OLED มักจะแสดงความเข้มของแสงที่แตกต่างกับหน้าจอ LCD เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตแสงและการจัดการกับความมืดของแต่ละพิกเซล

การเข้าใจความแตกต่างในการแสดงลูมาบนหน้าจอต่าง ๆ จึงช่วยให้การปรับแสงในการตัดต่อวิดีโอมีความเหมาะสมกับการแสดงผลในสื่อที่ผู้ชมจะใช้ในการรับชมมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ชมสามารถเห็นรายละเอียดและความรู้สึกที่ต้องการสื่อได้อย่างชัดเจน

การวิเคราะห์ลูมาในเครื่องมือการตัดต่อวิดีโอ

เครื่องมือการตัดต่อวิดีโอหลายๆ โปรแกรม เช่น Adobe Premiere Pro, Final Cut Pro, และ DaVinci Resolve มีเครื่องมือเฉพาะที่ช่วยให้ผู้ตัดต่อสามารถตรวจสอบระดับลูมาได้โดยละเอียด เช่นการใช้ Waveform Monitor ที่แสดงกราฟของระดับความสว่างในเฟรม ซึ่งช่วยให้สามารถเห็นภาพรวมของแสงที่ใช้ในคลิปวิดีโอได้อย่างชัดเจน

การใช้งาน Waveform Monitor ยังช่วยให้ผู้ตัดต่อสามารถตรวจสอบได้ว่าภาพมีความสว่างหรือมืดเกินไปหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการรักษาคุณภาพของวิดีโอให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การปรับแต่งค่าลูมาจึงสามารถแก้ปัญหาภาพที่อาจจะดูมืดหรือสว่างเกินไปได้ และทำให้ภาพมีคุณภาพสูงขึ้น

การแยกแยะระหว่างลูมาและลูมิแนนซ์ (Luminance)

แม้ว่าลูมา (Luma) และลูมิแนนซ์ (Luminance) จะมีความคล้ายคลึงกันในแง่ของการแสดงถึงความสว่าง แต่ทั้งสองมีความแตกต่างกันในบางจุด ลูมิแนนซ์เป็นการวัดความสว่างที่อิงจากการรับรู้ของมนุษย์ โดยพิจารณาจากค่าความสว่างของแสงที่ตาเรามองเห็น ในขณะที่ลูมาเป็นการคำนวณความสว่างในระบบดิจิทัลซึ่งใช้ข้อมูลจากสัญญาณวิดีโอ

การเข้าใจความแตกต่างนี้สำคัญเมื่อทำการประมวลผลภาพหรือวิดีโอในรูปแบบต่าง ๆ เพราะในงานตัดต่อวิดีโอ การใช้งานลูมาคือการทำให้ข้อมูลดิจิทัลเป็นที่สื่อความหมายได้โดยตรง ในขณะที่ลูมิแนนซ์เกี่ยวข้องกับการแสดงผลตามที่สายตามนุษย์รับรู้

การใช้งานลูมาในการประมวลผลภาพ

ในงานประมวลผลภาพ ลูมายังใช้ในกระบวนการที่เรียกว่า Keying หรือการตัดฉากหลังโดยใช้การแยกแยะความสว่าง ตัวอย่างเช่นในการใช้เทคนิค Luma Key เพื่อแยกส่วนของภาพที่มีความสว่างแตกต่างกันออกจากกัน ซึ่งมักจะใช้ในงานที่ต้องการตัดฉากหลังที่สว่างมากหรือมืดมากออก เช่น การแยกพื้นหลังสีขาวหรือสีดำ

เทคนิคนี้มีความแตกต่างจาก Chroma Key ที่แยกฉากหลังตามสี โดย Luma Key จะใช้งานเมื่อเราต้องการทำงานกับความสว่างของภาพ ไม่ใช่เพียงแค่สี ทำให้เทคนิคนี้เหมาะกับสถานการณ์ที่ฉากหลังมีความคอนทราสต์สูงเมื่อเทียบกับวัตถุหลัก