videoeditorprogram-stars

ประสบการณ์กว่า 15 ปีในวงการตัดต่อวิดีโอ

Pixel Aspect Ratio (PAR) คืออะไร?

Kristian Ole Rørbye

โดย Kristian Ole Rørbye

อัตรา

ในงานด้านการตัดต่อวิดีโอ หนึ่งในคำศัพท์ที่มักจะได้ยินบ่อยคือ “Pixel Aspect Ratio” หรือในภาษาไทยเรียกว่า “อัตราส่วนของพิกเซล” ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการทำงานกับภาพและวิดีโอ โดยเฉพาะเมื่อต้องการให้ภาพหรือวิดีโอปรากฏอย่างถูกต้องบนหน้าจอที่มีขนาดแตกต่างกัน

พิกเซล (Pixel) และพื้นฐานการแสดงผลภาพ

พิกเซล (Pixel) คือหน่วยที่เล็กที่สุดของภาพดิจิทัล ทุกภาพและวิดีโอที่เราเห็นบนจอแสดงผลจะประกอบไปด้วยพิกเซลเล็ก ๆ เหล่านี้หลายล้านตัว การทำความเข้าใจเรื่องของพิกเซลเป็นสิ่งสำคัญก่อนจะเข้าสู่หัวข้อของ Pixel Aspect Ratio เนื่องจากพิกเซลไม่ใช่เพียงแค่จุดเล็ก ๆ แต่ยังมีอัตราส่วนที่กำหนดรูปร่างของมันอีกด้วย

Pixel Aspect Ratio คืออะไร?

Pixel Aspect Ratio (PAR) หรือ อัตราส่วนของพิกเซล คือ อัตราส่วนระหว่างความกว้างและความสูงของพิกเซลหนึ่งตัวบนหน้าจอ กล่าวง่าย ๆ ก็คือมันบอกให้เรารู้ว่าพิกเซลมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า

  • หากพิกเซลมีความกว้างเท่ากับความสูง อัตราส่วนของพิกเซลจะเป็น 1:1 ซึ่งหมายความว่าพิกเซลมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส
  • หากพิกเซลมีความกว้างมากกว่าความสูงหรือสูงกว่าความกว้าง อัตราส่วนของพิกเซลจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ความสำคัญของ Pixel Aspect Ratio

Pixel Aspect Ratio มีความสำคัญอย่างมากในการตัดต่อวิดีโอและการแสดงผลภาพ เนื่องจากเมื่อเรานำวิดีโอไปแสดงผลบนหน้าจอที่มีขนาดหรืออัตราส่วนที่ต่างกัน วิดีโออาจถูกยืดหรือบีบหาก Pixel Aspect Ratio ไม่ถูกตั้งค่าให้เหมาะสม

ตัวอย่างเช่น หากเราถ่ายทำวิดีโอโดยใช้ Pixel Aspect Ratio ที่เป็น 1.33:1 (หรือพิกเซลที่มีความกว้างมากกว่าความสูง) แต่หน้าจอที่เราจะแสดงผลมีอัตราส่วนพิกเซลเป็น 1:1 วิดีโอนั้นจะถูกบีบจนผิดรูป หรือหากเรานำวิดีโอที่มีอัตราส่วนพิกเซลเป็น 1:1 ไปแสดงผลบนหน้าจอที่มีอัตราส่วนเป็น 1.33:1 วิดีโอนั้นก็จะถูกยืดออกเช่นกัน

ประเภทของ Pixel Aspect Ratio

ในโลกของวิดีโอและภาพดิจิทัล มีการใช้อัตราส่วนของพิกเซลที่แตกต่างกันไปตามมาตรฐานต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น:

  • Square Pixels (1:1): พิกเซลประเภทนี้พบมากในวิดีโอที่ถ่ายทำด้วยกล้องดิจิทัลหรือสำหรับการแสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์ความละเอียดสูง (HDTV) พิกเซลที่มีอัตราส่วน 1:1 จะไม่ถูกยืดหรือบีบ
  • Non-Square Pixels: พิกเซลที่ไม่ใช่สี่เหลี่ยมจัตุรัสมักพบในมาตรฐานวิดีโอบางประเภท เช่น วิดีโอที่ถ่ายทำด้วยอัตราส่วน 4:3 (ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับโทรทัศน์เก่า) หรือ 16:9 (ซึ่งเป็นมาตรฐานปัจจุบันสำหรับ HDTV) โดยจะมีอัตราส่วนของพิกเซลที่แตกต่างกันเพื่อรองรับรูปแบบภาพที่แตกต่างกัน

ตัวอย่างของ Non-Square Pixels ได้แก่:

  • D1/DV NTSC (0.9:1): ใช้ในวิดีโอที่ถ่ายทำด้วยมาตรฐาน NTSC ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับการแสดงผลในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา
  • D1/DV PAL (1.09:1): ใช้ในวิดีโอที่ถ่ายทำด้วยมาตรฐาน PAL ซึ่งเป็นมาตรฐานในยุโรปและบางประเทศในเอเชีย

ผลกระทบของ Pixel Aspect Ratio ในการตัดต่อวิดีโอ

เมื่อทำงานกับวิดีโอ การตั้งค่า Pixel Aspect Ratio อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้วิดีโอที่ออกมามีสัดส่วนที่ถูกต้องตามที่ต้องการ หากใช้ PAR ที่ไม่ตรงกับการตั้งค่าของหน้าจอหรือโปรแกรมที่ใช้ตัดต่อ อาจทำให้เกิดปัญหาดังนี้:

  • วิดีโอถูกยืดหรือบีบ: วิดีโออาจปรากฏผิดรูปเมื่อแสดงผลบนหน้าจอที่มีอัตราส่วนพิกเซลที่แตกต่างกัน
  • คุณภาพของภาพลดลง: เมื่อพิกเซลถูกยืดหรือบีบ คุณภาพของภาพจะลดลง ทำให้ภาพไม่ชัดเจนหรือมีความผิดเพี้ยน

การใช้งาน Pixel Aspect Ratio ในโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอส่วนใหญ่ เช่น Adobe Premiere Pro, Final Cut Pro หรือ DaVinci Resolve มีตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่า Pixel Aspect Ratio ได้อย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถเลือกค่า PAR ที่เหมาะสมสำหรับโครงการที่กำลังทำอยู่

นอกจากนี้ เมื่อทำการส่งออกวิดีโอจากโปรแกรมตัดต่อ ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะคงค่า Pixel Aspect Ratio ที่ใช้ในโปรเจกต์เดิมไว้ หรือปรับเปลี่ยนตามความต้องการของการแสดงผลปลายทาง เช่น หากต้องการแสดงผลบนโทรทัศน์สมัยใหม่ที่มีอัตราส่วน 16:9 ก็อาจต้องปรับ Pixel Aspect Ratio ให้เป็น 1:1 เพื่อให้การแสดงผลถูกต้อง