videoeditorprogram-stars

ประสบการณ์กว่า 15 ปีในวงการตัดต่อวิดีโอ

Timecode คืออะไร?

Kristian Ole Rørbye

โดย Kristian Ole Rørbye

อัพเดทแล้ว:

อัตรา

ในโลกของการตัดต่อวิดีโอและการผลิตภาพยนตร์ หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการระบุและจัดการช่วงเวลาของวิดีโอได้อย่างแม่นยำคือ “Timecode” หรือในภาษาไทยเรียกว่า รหัสเวลา Timecode มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยให้ผู้สร้างสรรค์งานสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจัดการไฟล์วิดีโอที่มีความยาวหลายชั่วโมงได้อย่างสะดวก

Timecode คืออะไร?

Timecode เป็นระบบการระบุเวลาที่ใช้ในสื่อวิดีโอและเสียง โดยเป็นตัวเลขที่แสดงถึงตำแหน่งที่แน่นอนในไฟล์วิดีโอหรือเสียง ระบบนี้จะแสดงข้อมูลออกมาในรูปแบบของชั่วโมง (Hours), นาที (Minutes), วินาที (Seconds) และเฟรม (Frames) เช่น 01:23:45:12 ซึ่งหมายถึงชั่วโมงที่ 1 นาทีที่ 23 วินาทีที่ 45 และเฟรมที่ 12 ในวิดีโอ

องค์ประกอบของ Timecode

  1. ชั่วโมง (Hours)
    ตัวเลขแรกใน Timecode บ่งบอกถึงชั่วโมง เช่น “01” ใน Timecode 01:23:45:12 หมายถึงช่วงเวลา 1 ชั่วโมง
  2. นาที (Minutes)
    ตัวเลขถัดมาหมายถึงจำนวนนาทีในวิดีโอ เช่น “23” ใน Timecode 01:23:45:12
  3. วินาที (Seconds)
    ตัวเลขชุดที่สามใช้เพื่อแสดงจำนวนวินาที เช่น “45” ใน Timecode 01:23:45:12
  4. เฟรม (Frames)
    ตัวเลขสุดท้ายใน Timecode คือจำนวนเฟรม ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราเฟรม (Frame Rate) ของวิดีโอ เช่น วิดีโอที่มีอัตราเฟรม 30 เฟรมต่อวินาที เฟรมที่ 12 หมายถึงเฟรมที่ 12 ในช่วง 1 วินาที

รูปแบบ Timecode ที่ใช้บ่อย

  1. SMPTE Timecode
    SMPTE (Society of Motion Picture and Television Engineers) Timecode เป็นมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวิดีโอ Timecode รูปแบบนี้ใช้ตัวเลข 4 ชุด ได้แก่ ชั่วโมง นาที วินาที และเฟรม (HH:MM:SS:FF)
  2. Drop Frame และ Non-Drop Frame
    Timecode ยังมีรูปแบบที่เรียกว่า Drop Frame และ Non-Drop Frame เพื่อปรับความแม่นยำของเวลาให้ตรงกับมาตรฐาน NTSC ในระบบโทรทัศน์ของสหรัฐอเมริกา
    • Drop Frame: มีการปรับเฟรมเล็กน้อยในทุกๆ นาทีเพื่อให้เวลาตรงกับความเป็นจริง
    • Non-Drop Frame: ไม่มีการปรับแก้เฟรม ทำให้เวลาอาจแตกต่างเล็กน้อยจากเวลาจริง
  3. Linear Timecode (LTC)
    เป็น Timecode ที่ถูกเข้ารหัสเป็นสัญญาณเสียง ใช้ในระบบการบันทึกที่ต้องการความแม่นยำสูง
  4. Vertical Interval Timecode (VITC)
    Timecode ที่ถูกฝังลงในสัญญาณวิดีโอเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่าย

การใช้งาน Timecode ในกระบวนการตัดต่อวิดีโอ

  1. การซิงค์เสียงและวิดีโอ
    Timecode ช่วยให้การซิงค์ระหว่างไฟล์เสียงและวิดีโอทำได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการบันทึกเสียงแยกจากวิดีโอ
  2. การจัดการไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่
    ในโปรเจกต์ที่มีฟุตเทจจำนวนมาก Timecode ช่วยให้ทีมงานสามารถค้นหาช่วงเวลาที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
  3. การทำงานร่วมกันในทีม
    เมื่อมีหลายคนทำงานในโปรเจกต์เดียวกัน Timecode จะช่วยให้สามารถอ้างอิงตำแหน่งของคลิปได้อย่างตรงกัน
  4. การเพิ่มคำบรรยาย (Subtitles)
    Timecode มีบทบาทสำคัญในการกำหนดตำแหน่งของคำบรรยายให้ตรงกับช่วงเวลาในวิดีโอ
  5. การแก้ไขสี (Color Grading)
    ในการปรับแก้สี Timecode ใช้เพื่อระบุช่วงเวลาที่ต้องการแก้ไขในไฟล์วิดีโอ

อัตราเฟรมและ Timecode

Timecode ทำงานควบคู่กับอัตราเฟรม (Frame Rate) ของวิดีโอ ซึ่งมีผลต่อความยาวของเฟรม ตัวอย่างอัตราเฟรมที่ใช้บ่อยได้แก่:

  • 24 เฟรมต่อวินาที: มาตรฐานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
  • 25 เฟรมต่อวินาที: ใช้ในระบบ PAL
  • 30 เฟรมต่อวินาที: ใช้ในระบบ NTSC

อัตราเฟรมเหล่านี้มีผลต่อการนับเฟรมใน Timecode และความแม่นยำของเวลา