videoeditorprogram-stars

ประสบการณ์กว่า 15 ปีในวงการตัดต่อวิดีโอ

วิวไฟน์เดอร์ (Viewfinder) คืออะไร?

Kristian Ole Rørbye

โดย Kristian Ole Rørbye

อัพเดทแล้ว:

อัตรา

ในงานถ่ายภาพและวิดีโอ Viewfinder (ช่องมองภาพ) คือองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ช่างภาพหรือผู้ถ่ายวิดีโอมองเห็นภาพที่จะถูกบันทึกไว้ผ่านเลนส์ของกล้อง ในภาษาไทยมักเรียกว่า ช่องมองภาพ ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมองค์ประกอบภาพและโฟกัสให้แม่นยำยิ่งขึ้น

ช่องมองภาพหรือ Viewfinder มีอยู่ในกล้องหลายประเภท ตั้งแต่กล้อง DSLR, กล้อง Mirrorless ไปจนถึงกล้องฟิล์มแบบคลาสสิก หน้าที่หลักคือช่วยให้ผู้ใช้งานเห็นพื้นที่ของภาพที่เลนส์กำลังจับอยู่ ซึ่งช่วยในการจัดองค์ประกอบภาพ (Composition), ควบคุมความคมชัด (Focus) และตรวจสอบการเปิดรับแสง (Exposure)

ประเภทของ Viewfinder

  1. ช่องมองภาพแบบออปติคัล (Optical Viewfinder หรือ OVF)
    ช่องมองภาพแบบออปติคัลพบได้บ่อยในกล้อง DSLR และกล้องฟิล์มทั่วไป เป็นช่องมองภาพที่ใช้หลักการของกระจกปริซึมสะท้อนแสงจากเลนส์กล้อง ทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นภาพที่แท้จริงผ่านช่องมองภาพโดยตรง
    • ข้อดี: ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าและไม่มีความหน่วงในการแสดงผล
    • ข้อเสีย: ไม่สามารถแสดงตัวอย่างการตั้งค่า เช่น การเปิดรับแสงหรือการปรับสี ได้ทันที
  2. ช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Viewfinder หรือ EVF)
    ช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์พบได้บ่อยในกล้อง Mirrorless ทำงานโดยการแสดงผลจากเซ็นเซอร์ภาพผ่านหน้าจอขนาดเล็กภายในช่องมองภาพ
    • ข้อดี: สามารถแสดงผลการตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทันที เช่น การชดเชยแสง, สี และความลึกของภาพ (DOF)
    • ข้อเสีย: ใช้พลังงานไฟฟ้าและอาจมีความหน่วง (Lag) หากกล้องประมวลผลไม่เร็วพอ
  3. ช่องมองภาพแบบไฮบริด (Hybrid Viewfinder)
    กล้องบางรุ่น โดยเฉพาะกล้องคอมแพคระดับสูง ได้พัฒนาช่องมองภาพแบบผสมผสานระหว่าง Optical Viewfinder และ Electronic Viewfinder ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการใช้งานได้ตามความเหมาะสม

ความสำคัญของ Viewfinder ในการถ่ายภาพและวิดีโอ

  1. การจัดองค์ประกอบภาพ (Composition)
    ช่องมองภาพช่วยให้ช่างภาพควบคุมและจัดองค์ประกอบภาพได้แม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีแสงจ้าหรือเมื่อหน้าจอ LCD ไม่สามารถใช้งานได้ชัดเจน
  2. การควบคุมโฟกัส
    การใช้ Viewfinder ทำให้ผู้ใช้งานเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถโฟกัสจุดต่าง ๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อใช้เลนส์ Manual Focus
  3. การประหยัดพลังงาน
    ช่องมองภาพแบบออปติคัลช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้ดีกว่าการใช้หน้าจอ LCD เนื่องจากไม่ต้องใช้ไฟในการแสดงผล
  4. การลดความเสี่ยงจากการสั่นไหว
    เมื่อใช้ช่องมองภาพ ผู้ถ่ายภาพสามารถจับกล้องแนบชิดกับใบหน้า ทำให้การจับถือกล้องมีความมั่นคง ลดการสั่นไหวของภาพโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง

ช่องมองภาพกับวิวัฒนาการของกล้อง

ในยุคดิจิทัล กล้องหลายรุ่นเริ่มพัฒนาหน้าจอ LCD ที่สามารถแสดงผลแบบ Live View ซึ่งเป็นทางเลือกที่ใช้แทน Viewfinder อย่างไรก็ตาม ช่องมองภาพยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มช่างภาพมืออาชีพ เนื่องจากความสะดวกในการใช้งานและความแม่นยำในการจัดเฟรมภาพ โดยเฉพาะในสภาพแสงจ้าที่หน้าจอ LCD อาจมองเห็นได้ไม่ชัด