ไวท์บาลานซ์ (White Balance) หรือที่เรียกว่า “การปรับสมดุลแสงสีขาว” เป็นเทคนิคในกระบวนการถ่ายภาพและวิดีโอที่ใช้ปรับสมดุลสีเพื่อให้วัตถุที่ควรเป็นสีขาวปรากฏเป็นสีขาวจริง ๆ โดยไม่มีการผิดเพี้ยนไปทางสีอื่น ๆ เช่น เหลือง ฟ้า หรือแดง การทำไวท์บาลานซ์ที่ถูกต้องจะทำให้สีสันในภาพถ่ายหรือวิดีโอมีความสมจริงและใกล้เคียงกับที่มองเห็นด้วยตาเปล่า
หลักการทำงานของไวท์บาลานซ์
ไวท์บาลานซ์ทำงานโดยการชดเชยอุณหภูมิสี (Color Temperature) ของแหล่งแสงที่แตกต่างกัน ซึ่งแหล่งแสงแต่ละประเภทมีลักษณะสีที่ไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น:
- แสงแดดตอนกลางวัน มักจะมีสีที่ค่อนไปทางขาวหรือน้ำเงิน
- แสงหลอดไส้ (Tungsten Light) จะให้แสงสีเหลืองอมส้ม
- แสงนีออน (Fluorescent Light) อาจมีการติดสีเขียวหรือม่วง
หากไม่ได้ปรับไวท์บาลานซ์ให้เหมาะสมกับแหล่งแสง สีในภาพถ่ายหรือวิดีโออาจออกมาผิดเพี้ยน เช่น ภาพที่ถ่ายในห้องไฟหลอดไส้อาจดูเหลืองเกินไป หรือภาพกลางแจ้งอาจดูอมฟ้าเกินไป
ทำไมไวท์บาลานซ์จึงสำคัญ?
การปรับไวท์บาลานซ์มีความสำคัญมากในการถ่ายภาพและวิดีโอ เนื่องจากแหล่งแสงต่าง ๆ มีผลต่อการรับรู้สีในภาพ ดังนี้:
- ความสมจริงของภาพ – สีที่ถูกต้องช่วยให้ภาพถ่ายดูสมจริง และเป็นธรรมชาติ
- สร้างอารมณ์ภาพ – ไวท์บาลานซ์ที่ถูกปรับตั้งไว้อย่างเหมาะสมสามารถส่งผลต่อความรู้สึกของภาพ เช่น การใช้สีโทนเย็นให้อารมณ์สงบ หรือสีโทนอุ่นให้อารมณ์อบอุ่น
- ควบคุมคุณภาพของวิดีโอ – ในงานวิดีโอที่ต้องการคุณภาพสูง การปรับไวท์บาลานซ์ที่เหมาะสมช่วยหลีกเลี่ยงสีเพี้ยน
วิธีการปรับไวท์บาลานซ์
การปรับไวท์บาลานซ์สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น กล้องถ่ายภาพ วิดีโอ หรือซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอ:
- การปรับไวท์บาลานซ์อัตโนมัติ (AWB: Auto White Balance)
กล้องส่วนใหญ่มีฟังก์ชันปรับไวท์บาลานซ์อัตโนมัติ ซึ่งกล้องจะวิเคราะห์แหล่งแสงและปรับสมดุลสีขาวให้อัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม โหมดนี้อาจไม่แม่นยำเสมอไปในบางสถานการณ์ เช่น สภาวะแสงผสม - การตั้งค่าไวท์บาลานซ์แบบสำเร็จรูป (Preset White Balance)
กล้องจะมีตัวเลือกให้ปรับไวท์บาลานซ์ตามสภาพแสง เช่น:- Daylight (กลางแจ้ง) – สำหรับการถ่ายกลางแจ้งในแสงแดด
- Cloudy (มีเมฆ) – สำหรับถ่ายภาพในสภาพแสงมีเมฆหรือแสงฟ้าอมเทา
- Tungsten (แสงหลอดไส้) – ชดเชยแสงเหลืองจากหลอดไส้
- Fluorescent (แสงนีออน) – ชดเชยแสงเขียวหรือม่วงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์
- การตั้งค่าไวท์บาลานซ์ด้วยตนเอง (Custom White Balance)
วิธีนี้ให้ความแม่นยำสูงสุด โดยผู้ถ่ายจะตั้งค่าสมดุลสีขาวเองผ่านวัตถุที่เป็นสีขาว หรือเทา 18% เพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิงสำหรับแหล่งแสงนั้น ๆ - การปรับไวท์บาลานซ์ในภายหลัง (Post-Processing)
สำหรับงานวิดีโอหรือภาพถ่ายที่ถ่ายมาแล้ว สามารถแก้ไขไวท์บาลานซ์ได้ในซอฟต์แวร์ตัดต่อ เช่น Adobe Premiere Pro, Final Cut Pro หรือ Lightroom
ตัวอย่างการใช้ไวท์บาลานซ์ในวิดีโอ
- งานถ่ายสัมภาษณ์ – ต้องปรับไวท์บาลานซ์เพื่อให้สีผิวของบุคคลดูเป็นธรรมชาติ
- งานถ่ายภาพทิวทัศน์ – การตั้งค่าไวท์บาลานซ์ให้เหมาะสมช่วยรักษาความสมจริงของสีท้องฟ้า ต้นไม้ และธรรมชาติ
- งานถ่ายในร่ม (Studio Shooting) – การตั้งไวท์บาลานซ์ให้เข้ากับแสงสังเคราะห์ที่ใช้จะช่วยให้ภาพไม่ดูติดเหลืองหรือติดเขียว
ข้อควรระวังในการตั้งค่าไวท์บาลานซ์
แม้ไวท์บาลานซ์จะเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง อาจทำให้ภาพดูไม่สมจริง เช่น:
- การตั้งค่าไวท์บาลานซ์ผิดประเภท เช่น ใช้ Tungsten ในสภาพแสงแดด ทำให้ภาพอมฟ้ามากเกินไป
- การใช้ AWB ในสภาวะแสงซับซ้อน เช่น มีแหล่งแสงหลายสีผสมกัน